Migra-Q10
ปวดหัวเรื้อรัง…แก้ไม่หาย!
อาการปวดหัวเรื้อรัง หรือ ไมเกรน (Migraine) เป็นอาการที่พบได้บ่อยและรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันของหลายคน ลักษณะอาการคือมักมีอาการปวดหัวตุบๆ เป็นจังหวะข้างเดียวหรือทั้งสองข้างจนแทบทนไม่ไหว บางครั้งอาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน และตาพร่ามัวร่วมด้วย สาเหตุของไมเกรนเกิดจากการบีบรัดและคลายตัวของหลอดเลือดในเยื่อหุ้มสมองที่ผิดปกติ เมื่อเจอสิ่งกระตุ้น
ไมเกรนยังไม่พบวิธีรักษาให้หายขาด การดูแลจึงทำได้เพียงแค่ทานยาตามอาการ และหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นต่างๆ เช่น การพักผ่อนไม่เพียงพอ ความเครียดสูง แสงจ้า หรือเสียงดัง นอกจากนี้ น้ำตาลก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้น้ำเลือดหนืดและหลอดเลือดทำงานหนักขึ้น
แต่ในความเป็นจริง เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงปัจจัยเหล่านี้ได้ทั้งหมด จึงจำเป็นต้องหาตัวช่วยเพื่อลดความถี่และความรุนแรงของอาการให้ทุเลาลง และมีสารอาหารจากธรรมชาติหลายชนิดที่มีฤทธิ์ในการช่วยลดอาการไมเกรนได้
สารอาหารเพื่อการป้องกันและบรรเทาอาการไมเกรน
แมกนีเซียม บิสไกลซิเนต (Magnesium Bisglycinate)
แมกนีเซียมเป็นโคแฟกเตอร์ของเอนไซม์มากกว่า 300 ชนิดในร่างกาย มีบทบาทสำคัญต่อระบบประสาท กล้ามเนื้อ และหลอดเลือด และช่วยลดความถี่และความรุนแรงของไมเกรน
ควบคุมระบบประสาทและสมอง: แมกนีเซียมช่วยปรับการทำงานของตัวรับ NMDA ที่เกี่ยวข้องกับความเจ็บปวด และยังช่วยลดการปล่อยสารสื่อประสาท CGRP ที่เป็นเป้าหมายสำคัญในการรักษาไมเกรน
ช่วยให้หลอดเลือดคลายตัว: แมกนีเซียมทำให้หลอดเลือดคลายตัว (Vasodilation) ซึ่งช่วยลดความดันโลหิตและป้องกันการหดตัวของหลอดเลือดสมองที่เกี่ยวข้องกับไมเกรนได้
ลดความเครียดและส่งเสริมการนอนหลับ: แมกนีเซียมช่วยปรับสมดุลของสารสื่อประสาท GABA ซึ่งมีฤทธิ์สงบระงับ และลดการหลั่งฮอร์โมนความเครียดอย่างคอร์ติซอล
แอล-ธีอะนีน (L-Theanine)
เป็นกรดอะมิโนที่พบมากในชาเขียว ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายและลดความเครียดได้โดยไม่ทำให้ง่วง
เพิ่มคลื่นสมองอัลฟา: แอล-ธีอะนีนช่วยเพิ่มการสร้าง คลื่นอัลฟา ในสมอง ซึ่งสัมพันธ์กับสภาวะจิตใจที่สงบและตื่นตัว
ปรับสมดุลสารสื่อประสาท: มีผลต่อระดับสารสื่อประสาทหลายชนิด เช่น เพิ่มระดับ GABA ที่ช่วยให้สงบ และเพิ่ม โดพามีน และ เซโรโทนิน ที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์และความสุข
ช่วยให้การนอนหลับมีคุณภาพ: การช่วยลดความเครียดและความวิตกกังวล ทำให้หลับง่ายขึ้นและหลับได้สนิทขึ้น
กลุ่มวิตามินบี (B1, B2, B6, B12)
เป็นวิตามินที่จำเป็นต่อการทำงานของระบบประสาทและการเผาผลาญพลังงาน
วิตามินบี 2 (Riboflavin): การวิจัยพบว่าวิตามินบี 2 ในปริมาณสูงอาจช่วยลดความถี่และความรุนแรงของ
ไมเกรนได้ โดยเชื่อว่าเกี่ยวข้องกับการปรับปรุงการทำงานของไมโทคอนเดรียในสมอง
วิตามินบี 12 (Cobalamin): การเสริมวิตามินบี 12 ร่วมกับวิตามินบี 6 และโฟเลต อาจช่วยลดความถี่และความรุนแรงของไมเกรนได้
โคเอนไซม์ คิวเทน (Coenzyme Q10)
เป็นสารคล้ายวิตามินที่ร่างกายผลิตได้เอง มีบทบาทสำคัญในการผลิตพลังงานระดับเซลล์ และเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพ
ป้องกันไมเกรน: งานวิจัยหลายชิ้นสนับสนุนการใช้ CoQ10 ในการป้องกันไมเกรน โดยเชื่อว่าเกี่ยวข้องกับการปรับปรุงการทำงานของไมโทคอนเดรียในสมอง ซึ่งอาจบกพร่องในผู้ป่วยไมเกรน
สุขภาพหัวใจและสมอง: CoQ10 มีประโยชน์ต่อสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด และช่วยปกป้องเซลล์ประสาทจากความเสื่อม
สารสกัดจากใบแปะก๊วย (Ginkgo Biloba Extract)
เป็นสมุนไพรที่ใช้เพื่อส่งเสริมการไหลเวียนของเลือด โดยเฉพาะไปยังสมอง
เพิ่มการไหลเวียนของเลือด: สารสกัดจากใบแปะก๊วยช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังสมอง
ต้านอนุมูลอิสระ: สารฟลาโวนอยด์ในสารสกัดนี้เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพ ช่วยปกป้องเซลล์สมองจากความเสียหาย
อาจช่วยเรื่องไมเกรน: มีบางการศึกษาที่ชี้ว่าสารสกัดจากใบแปะก๊วยอาจช่วยลดความถี่และความรุนแรงของไมเกรนได้
การทำงานร่วมกันเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น
สารอาหารเหล่านี้เมื่อทำงานร่วมกันจะยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม
การลดความเครียดและอาการปวด: แมกนีเซียมและแอล-ธีอะนีนช่วยผ่อนคลายระบบประสาทและลดความเครียด ซึ่งเป็นปัจจัยกระตุ้นไมเกรนที่สำคัญ ทำให้ร่างกายอยู่ในสภาวะที่สมดุลมากขึ้น
การฟื้นฟูระบบหลอดเลือดและพลังงาน: วิตามินบี, CoQ10 และแอล-อาร์จินีน ช่วยส่งเสริมการผลิตพลังงานและปรับปรุงการไหลเวียนโลหิต ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นต่อการทำงานของสมองและช่วยลดการปวดที่เกิดจากความผิดปกติของหลอดเลือด
การเสริมประสิทธิภาพร่วมกัน: การได้รับสารอาหารที่หลากหลายในปริมาณที่เหมาะสม จะช่วยให้ร่างกายมีเครื่องมือที่ครบครันในการจัดการกับความเครียด ป้องกันอาการที่อาจเกิดขึ้น และฟื้นฟูตัวเองได้อย่างเต็มที่
