หน้าหลัก     ปัญหาสุขภาพ     สาระน่ารู้

Echinacea สารสกัดเอคไคเนเชีย

     สารสกัดเอคไคเนเชีย คือสมุนไพรท้องถิ่นของพื้นที่ทางทิศตะวันออกของภูเขาร็อคกี้และรัฐทางตะวันตกของประเทศสหรัฐอเมริกา, แคนาดา, และยุโรป ต้นเอ็กไคนาเซียมีอยู่หลายสายพันธุ์ที่สามารถนำใบ, ดอก, และรากมาใช้เป็นยาได้ อีกทั้งเอ็กไคนาเซียยังถูกใช้เป็นสมุนไพรดั้งเดิมของชาวเผ่าเกรตเพลนอินเดียน (Great Plains Indian tribe) ชนเผ่านี้ได้ตั้งรกรากตามแบบอย่างของชาวอินเดียนแดง และใช้เอ็กไคนาเซียสำหรับทำยา  ปัจจุบันผู้คนเริ่มสนใจในพืชชนิดนี้มากขึ้นเนื่องจากมีเชื้อแบคทีเรียที่ดื้อต่อยาปฏิชีวนะมากขึ้น

     สารสกัดเอคไคเนเชีย ถูกใช้ต่อสู้กับภาวะติดเชื้อกันอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะโรคไข้หวัด บางคนใช้เอ็กไคนาเซียทันทีที่เริ่มสังเกตเห็นสัญญาณของไข้หวัดเพื่อป้องกันอาการทรุด แต่ก็มีหลายคนที่ใช้เอ็กไคนาเซียหลังจากที่มีอาการของไข้หวัดไปแล้ว โดยมีเป้าหมายเพื่อทำให้อาการรุนแรงน้อยลงและหายเร็วขึ้น

การใช้และประสิทธิภาพของสารสกัดเอคไคเนเชีย

  1. 1.  ภาวะที่อาจใช้เอ็กไคนาเซียได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  2. 2.  ไข้หวัด (Common cold) การศึกษาของนักวิทยาศาสตร์หลายท่านได้แสดงให้เห็นว่าการทานผลิตภัณฑ์เอ็กไคนาเซียเมื่อเริ่มสังเกตเห็นอาการของไข้หวัดสามารถลดอาการของเด็กอายุ 12 ปีและผู้ใหญ่ได้ดี แม้ว่าการศึกษาชิ้นอื่น ๆ กลับไม่พบสรรพคุณเช่นนี้ ปัญหาที่พบคือว่าการศึกษาสองกลุ่มนี้ต่างใช้ต้นเอ็กไคนาเซียต่างประเภทกันอีกทั้งยังใช้กระบวนการเตรียมการที่แตกต่างกัน เนื่องจากว่าผลการศึกษานี้ยังไม่สอดคล้องกันจึงไม่แปลกใจที่การศึกษาทั้งหลายให้ผลที่ต่างกันออกไป หากเอ็กไคนาเซียสามารถรักษาไข้หวัดได้ ผลของการรักษาด้วยพืชชนิดนี้อาจให้ผลที่น้อยมาก ส่วนการศึกษาเกี่ยวกับการใช้เอ็กไคนาเซียกับการป้องกันไข้หวัดก็ยังคงปะปนกันอยู่ บ้างก็แสดงให้เห็นว่าเอ็กไคนาเซียสามารถลดความเสี่ยงของการติดหวัดได้ถึง 10-58% แต่บ้างก็พบว่าการทานเอ็กไคนาเซียไม่ได้ช่วยป้องกันไข้หวัดเมื่อคุณได้รับเชื้อมาแล้ว

ภาวะที่ยังคงขาดหลักฐานว่าใช้สารสกัดเอคไคเนเชียรักษาได้หรือไม่

✿  ภาวะวิตกกังวล (Anxiety) งานวิจัยกล่าวว่าการทานสารสกัดเอ็กไคนาเซีย 40 mg (ExtractumPharma ZRT) ต่อวันเป็นเวลานาน 7 วันสามารถลดอาการของภาวะวิตกกังวลได้ แต่การทานมากกว่า 40 mg ต่อวันนั้นอาจจะไม่มีประสิทธิผลใด ๆ
ศักยภาพการออกกำลังกาย งานวิจัยแสดงให้เห็นว่าการทานเอ็กไคนาเซียสี่ครั้งต่อวันนาน 28 วัน (Puritan' s Pride, Oakdale) จะเพิ่มปริมาณออกซิเจนที่หายใจเข้าระหว่างการทดสอบออกกำลังของผู้ชายสุขภาพดีได้ อย่างไรก็ตามการใช้ในปริมาณที่สุดถึง 8,000-16,000 mg ทุกวันร่วมกับส่วนประกอบอื่น ๆ ทั้งนักกีฬาชายและหญิงไม่ได้เพิ่มปริมาณออกซิเจนที่ร่างกายได้
รับแต่อย่างใด

✿  เหงือกอักเสบ (gingivitis) งานวิจัยกล่าวว่าการกลั้วคอด้วยเอ็กไคนาเซีย, บัวบก (gotu kola), และอัลเดอร์เบอร์รี (elderberry) (HM-302, Izum Pharmaceuticals) สามครั้งต่อวันนาน 14 วันอาจช่วยป้องกันโรคเหงือกไม่ให้ทรุดลงได้ อีกทั้งการใช้แผ่นปะช่องปากที่ประกอบด้วยชุดสมุนไพรดังกล่าว (PerioPatch, Izun Pharmaceuticals) ก็ยังช่วยลดบางอาการของโรคเหงือกได้แม้ว่าอาจจะไม่ได้มีประสิทธิภาพเช่นนี้ทุกครั้ง


✿  โรคเริม (genital herpes หรือ cold sores) หลักฐานเกี่ยวกับผลกระทบของเอ็กไคนาเซียกับการรักษาโรคเริมยังคงไม่ชัดเจน บ้างก็แสดงให้เห็นว่าการทานสารสกัดจากเอ็กไคนาเซีย (Echinaforce, A Vogel Bioforce AG) 800 mg สองครั้งต่อวันนาน 6 เดือนไม่อาจช่วยป้องกันหรือลดความถี่หรือระยะเวลาของการเกิดโรคเริมซ้ำซากได้ อย่างไรก็ตามมีงานวิจัยที่แสดงให้เห็นว่าการทานผลิตภัณฑ์เหล่านี้ร่วมกัน (Esberitox, Schaper & Brummer, Salzgitter-Ringelheim) นาน 3-5 ครั้งต่อวันสามารถลดอาการคัน, ความตึง, และอาการเจ็บของผู้ป่วยโรคเริ่มได้


✿  หูดทวารหนักที่เกิดจาก human papilloma virus (HPV) งานวิจัยแสดงให้เห็นว่าการทานผลิตภัณฑ์ที่ประกอบด้วยเอ็กไคนาเซีย, ฟ้าทะลายโจร (andrographis), เกรปฟรุต (grapefruit), มะละกอ, ชมพูระย้าทิพย์ (pau d' arco), และต้นเล็บแมว (cat's claw) (Immune Act, Erba Vita SpA) ทุกวันนานหนึ่งเดือนสามารถลดการเกิดหูดที่ทวารซ้ำซากในผู้ป่วยที่เคยเข้ารับการผ่าตัดกำจัดหูดได้ แต่การศึกษานี้ยังนับว่ามีคุณภาพไม่ดีซึ่งทำให้ผลที่ได้ยังคงเป็นที่น่าสงสัยอยู่


✿  ไข้หวัดใหญ่ (Influenza) งานวิจัยแสดงให้เห็นว่าการทานผลิตภัณฑ์ที่ประกอบด้วยเอ็กไคนาเซียทุกวันนาน 15 วันอาจช่วยเพิ่มการตอบสนองต่อวัคซีนของร่างกายผู้ที่มีปัญหาการหายใจอย่างหอบหืดหรือหลอดลมอักเสบได้ ณ ขณะนี้ยังคงไม่ชัดเจนว่าผู้ที่ไม่เคยได้รับวัคซีนจะได้รับประโยชน์จากการทานสมุนไพรนี้หรือไม่ งานวิจัยบางชิ้นได้พบว่าการดื่มผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของเอ็กไคนาเซียและเอลเดอร์เบอร์รี่ห้าครั้งต่อวันนาน 3 วันแทนจากนั้นก็เป็นสามครั้งต่อวันนานอีก 7 วันอาจช่วยให้อาการไข้หวัดใหญ่ดีขึ้นได้คล้ายกับการใช้ยา oseltamivir (Tamiflu)


✿  จำนวนเซลล์เม็ดเลือดขาวน้อยจากการทำเคมีบำบัด งานวิจัยแสดงให้เห็นว่าการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ประกอบด้วยสารสกัดจากรากของเอ็กไคนาเซีย, ใบทูยา (thuja leaf), และครามป่า (wild indigo) (Esberitox N) 50 หยดระหว่างการทำเคมีบำบัดสามารถเพิ่มจำนวนเซลล์เม็ดเลือดแดงและขาวของผู้หญิงที่ป่วยเป็นมะเร็งเต้านมชนิดลุกลามได้ แต่ผลเช่นนี้ไม่อาจพบกับทุกกรณี และปริมาณที่น้อยกว่า 50 หยดก็อาจไม่ได้ให้ผลที่น่าพอใจอีกด้วย อีกทั้งผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ก็ไม่อาจลดความเสี่ยงของการติดเชื้อได้


✿  การติดเชื้อของหูชั้นใน งานวิจัยกล่าวว่าการทานสารสกัดเหลวจากเอ็กไคนาเซียสามครั้งต่อวันนาน 3 วันตั้งแต่ที่มีสัญญาณแรกของหวัดไม่อาจป้องกันการติดเชื้อในหูของเด็กอายุ 1-5 ปีที่มีประวัติการติดเชื้อในหูมาก่อนได้ แต่การติดเชื้อที่เป็นอยู่มักจะดีขึ้นเมื่อได้ใช้จริง


✿  ทอนซิลอักเสบ (tonsillitis) งานวิจัยแสดงให้เห็นว่าการใช้สเปรย์ช่องปากที่ประกอบด้วยเสจ (sage), และเอ็กไคนาเซียทุก ๆ สองชั่วโมง 10 ครั้งต่อวันนาน 5 วันทำให้อาการเจ็บคอดีขึ้นคล้ายกับการใช้ยาสเปรย์สำหรับผู้ป่วยทอนซิลอักเสบ งานวิจัยอีกหลาย ๆ ชิ้นได้กล่าวต่อว่าการใช้ยาหยดเอ็กไคนาเซีย 50 หยด (Esberitox) สามครั้งต่อวันนาน 2 สัปดาห์ร่วมกับยาปฏิชีวนะก็สามารถลดอาการเจ็บคอและสุขภาพโดยรวมของผู้ป่วยทอนซิลอักเสบได้


✿  ตาอักเสบ (Uveitis) งานวิจัยกล่าวว่าการทานสินค้าจากเอ็กไคนาเซีย 150 mg (Iridium, SOOFT Italia SpA) สองครั้งต่อวันนาน 4 สัปดาห์นอกจากการใช้เพียงยาหยอดตาและสเตียรอยด์ไม่อาจรักษาตาได้ดีไปกว่ายาหยอดตาและสเตียรอยด์


✿  โรคหูด (Warts) งานวิจัยกล่าวว่าการทานเอ็กไคนาเซียทุกวันนาน 3 เดือนไม่อาจกำจัดหูดบนผิวหนังได้ แต่การทานอาหารเสริมที่กระกอบด้วยเอ็กไคนาเซีย,  methionine, สังกะสี, โปรไบโอติก, สารต้านอนุมูลอิสระ, และส่วนผสมที่กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันนาน 6 เดือนร่วมกับการรักษาตามแบบแผนสามารถรักษาหูดได้ดีกว่าการรักษาตามปรกติเพียงอย่างเดียว


  โรคสมาธิสั้น (Attention deficit-hyperactivity disorder (ADHD))
  โดนเหล็กในผึ้งต่อย
  การติดเชื้อในกระแสเลือด
   กลุ่มอาการเหนื่อยล้าเรื้อรัง (Chronic fatigue syndrome (CFS))
  คอตีบ (Diphtheria)
  วิงเวียน
  โรคผิวหนัง (Eczema)
   ไข้ละอองฟางหรือภูมิแพ้อื่น ๆ
   HIV/AIDS
   ภาวะอาหารไม่ย่อย
   มาลาเรีย
   ปวดศีรษะไมเกรน
   ถูกงูหางกระดิ่งกัด
   โรคข้อต่ออักเสบรูมาตอยด์ (Rheumatoid arthritis (RA))
   คอหอยอักเสบ (Strep infections)
   ไข้หวัดหมู (Swine flu)
   ซิฟิลิส (Syphilis)
   ไข้ไทฟอยด์ (Typhoid)
   ทางเดินปัสสาวะติดเชื้อ (Urinary tract infections (UTIs))
   การติดเชื้อยีสต์
   ภาวะสุขภาพอื่น ๆ


ดังนั้น จากประโยชน์ในการรักษาโรคแล้วนั้นทำให้เห็นได้ว่ามีจึงเป็นสิ่งจำเป็นต่อสุขภาพรอบด้าน
 

BACK