มีการศึกษาการใช้ chondroitin ในโรคข้อเข่าเสื่อมพบว่าช่วยลดอาการเจ็บข้อและสามารถชะลอการแคบลงของช่องว่างระหว่างข้อ โดยการศึกษานี้คือ The Study on Osteoarthritis Progression Prevention (STOPP) มีผู้เข้าร่วมการศึกษาทั้งหมด 622 คนจากยุโรปและอเมริกา ผู้เข้าร่วมการศึกษามีอายุระหว่าง 45-80 ปี เป็นข้อเข่าเสื่อมบริเวณ medial tibiofemoral ผู้เข้าร่วมการศึกษาถูกสุ่มให้ได้รับ chondroitin ในขนาด 800 มิลลิกรัม วันละครั้ง(n=309) หรือ ได้รับยาหลอก (n=313) เป็นระยะเวลา 24 เดือน ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มผู้ป่วยที่ได้รับ chondroitin มีการแคบลงของข้อ 0.07 มิลลิเมตร กลุ่มควบคุมมีการแคบลงของข้อ 0.31 มิลลิเมตร โดยกลุ่มที่ได้รับ chondroitin มีการแคบลงของข้อน้อยกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < 0.0001) โดยพบว่าผู้ที่ได้รับ chondroitin ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดการแคบลงของข้อได้ร้อยละ 33 นอกจากนั้นผู้ที่ได้รับ chondroitin มีความปวดลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุมโดยพบผลลดปวดตั้งแต่เดือนแรกจนถึงเดือนที่ 9 ของการศึกษา และผู้ป่วยร้อยละ 90 ทนต่อการใช้ยาได้ดี โดยไม่พบผลข้างเคียงจากการใช้ยา อย่างไรก็ตามขนาดของ chondroitin ที่ใช้เป็นขนาดที่ใช้เพื่อการรักษาไม่ควรนำขนาดยา chondroitin ในการศึกษานี้ไปประยุกต์ใช้กับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารตามท้องตลาดได้
ʕ·ᴥ·ʔ Medscape Medical News: แม้ว่าในอดีตที่ผ่านมา chondroitin จะถูกจัดให้เป็นอาหารเสริมมากกว่าเป็นยาที่ใช้ในการรักษาโรคข้อเข่าเสื่อม (knee osteoarthritis) แต่ข้อมูลการศึกษาล่าสุดกลับพบว่า ประสิทธิภาพในการบรรเทาอาการด้วย chondroitin ดีเทียบเท่ากับยา celecoxib และยังมีผลดีในแง่ของการช่วยชะลอการดำเนินโรคอีกด้วย
ʕ·ᴥ·ʔ Jean-Pierre Pelletier และคณะผู้วิจัยจาก University of Montreal ได้ดำเนินการศึกษาวิจัยเพื่อพิสูจน์ประสิทธิภาพของสาร chondroitin ซึ่งมีการถกเถียงกันมาเป็นเวลานานว่า มีประสิทธิภาพในการบรรเทาอาการและรักษาโรคข้อเสื่อมได้จริงหรือไม่ โดยมีอาสาสมัครซึ่งได้รับการวินิจฉัยโรคข้อเข่าเสื่อมเข้าร่วมในการศึกษานี้รวม 194 ราย แบ่งสุ่มออกเป็น 2 กลุ่มคือ กลุ่มที่ได้รับสาร chondroitin sulphate ในขนาด 1,200 มิลลิกรัมต่อวัน และกลุ่มที่ได้รับการรักษาด้วยยา celecoxib ในขนาด 200 มิลลิกรัมต่อวัน และมีเกณฑ์การวัดผลคือ อาการปวดที่วัดจาก visual analogue scale (VAS) และการเปลี่ยนแปลงของกระดูกอ่อนและน้ำไขข้อภายในข้อเข่าซึ่งตรวจด้วยการถ่ายภาพ MRI
ʕ·ᴥ·ʔ เมื่อสิ้นสุดการศึกษาวิจัยที่ 2 ปี ข้อมูลจากการศึกษาพบว่า กลุ่มอาสาสมัครที่ได้รับ chondroitin มีการเสื่อมของเนื้อเยื่อกระดูกอ่อนและน้ำในข้อเข่าน้อยกว่ากลุ่มที่ได้รับยา celecoxib ค่อนข้างชัดเจน แต่จากการวิเคราะห์ทางสถิติพบว่าไม่ได้แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ โดยความเปลี่ยนแปลงในแง่ของการชะลอความเสื่อมของข้อนั้น สามารถเห็นได้จากการตรวจ MRI ตั้งแต่ 12 เดือนของการรักษา ส่วนในแง่ของการบรรเทาอาการปวดข้อนั้น พบว่า chondroitin สามารถบรรเทาอาการปวดได้ดีพอ ๆ กับยา celecoxib
ʕ·ᴥ·ʔ Pelletier กล่าวว่า โดยรวมแล้วข้อมูลเกี่ยวกับประสิทธิภาพของ chondroitin นั้น แม้จะยังไม่ได้รับการยืนยันที่ชัดเจนแต่ก็อาจจะสามารถนำเอา chondroitin มาใช้เพื่อการรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมได้ เนื่องจากโดยทั่วไปแล้วอาการข้างเคียงที่อาจจะเกิดจาก chondroitin ค่อนข้างน้อยและมีความปลอดภัย โดยอาจพิจารณาให้เป็นการรักษาเสริมควบคู่ไปกับการใช้ยาบรรเทาอาการปวด เช่น paracetamol อย่างไรก็ตาม chondroitin ที่มีจำหน่ายในท้องตลาดมีคุณภาพที่แตกต่างกันหลายระดับ ดังนั้น ในการใช้ควรเลือกรูปแบบที่มีคุณภาพการผลิตเทียบเท่ากัน
