หน้าหลัก     ปัญหาสุขภาพ     สาระน่ารู้

น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส Evening primrose

     เมื่อกล่าวถึงสุขภาพของผู้หญิง โดยรวมแล้วผู้หญิงแต่ละคนคงมีความกังวลในสุขภาพของตนเองอยู่หลายประการ ขึ้นอยู่กับวัยหรือช่วงของอายุ เช่น

ผู้หญิงเริ่มเข้าสู่วัยรุ่นหรือวัยทำงาน


ผู้หญิงเริ่มเข้าสู่วัยสูงอายุหรือวัยทอง

     ซึ่งอาการต่างๆ เหล่านี้สามารถพบได้กับผู้หญิงทุกคนในแต่ละวัย ดังนั้นการหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพของผู้หญิงในวันนี้ จะสามารถช่วยบรรเทาอาการที่ไม่พึงประสงคที่จะเกิดขึ้นได้ในอนาคต
         

     น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส เป็นกรดไขมันจำเป็นที่สกัดได้จากดอกอีฟนิ่ง พริมโรส ซึ่งเป็นพืชล้มลุกที่มีดอกสีเหลือง เป็นพืชที่พบมากในแถบอเมริกาเหนือและยุโรป ถือเป็นพืชดั้งเดิมของชาวอินเดียนแดงของอเมริกา ได้นำไปใช้ประโยชน์ในการรักษาสุขภาพต่างๆ มาตั้งแต่โบราณกาล ด้วยสรรพคุณต่างๆ มากมายของน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสที่มีต่อร่างกาย และเป็นสรรพคุณที่ได้รับการยอมรับกันอย่างกว้างขวางไปทั่วโลก จึงทำให้มีผู้ขนานนามให้กับน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสว่าเป็น 'The King Cure All หรือ เจ้าแห่งการรักษาทั้งปวง' เพราะน้ำมันที่สกัดจากดอกอีฟนิ่งพริมโรสจะอุดมไปด้วยกรดไขมันจำเป็นชนิดไม่อิ่มตัวกลุ่ม Omega-6 ที่สำคัญคือ กรดแกมมาไลโนเลนิค (Gamma-linolenic acid หรือ GLA) ซึ่งเป็นกรดไขมันที่ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ จำเป็นต้องได้รับจากอาหารเท่านั้น


        น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส ที่อุดมไปด้วย GLA ส่งผลที่ดีต่อสุขภาพหลายประการ เนื่องจาก GLA ที่ได้รับจากการรับประทานน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสจะถูกเปลี่ยนให้เป็นสารพลอสตาแกลนดิน ที่มีส่วนประกอบคล้ายฮอร์โมน มีประโยชน์ต่อร่างกาย คือ


เคล็ดลับผิวสวยด้วยน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส 


         กรดไขมันจำเป็น 2 ชนิดที่พบในน้ำมันดอกอีฟนิ่งพริมโรสคือ กรดไลโนเลอิค (LA) และ กรดแกมมาไลโนเลนิค (GLA) เป็นส่วนประกอบสำคัญของเยื่อหุ้มเซลล์ในร่างกาย รวมทั้งเซลล์ผิวหนัง และเป็นส่วนสำคัญในการสร้างสาร PGE1 ซึ่ง PGE1 จะช่วยให้ผนังหลอดเลือดแดงมีความสมบูรณ์แข็งแรง ทำให้สารอาหารต่างๆ มาหล่อเลี้ยงเซลล์ผิวให้แข็งแรง ส่งผลให้พิวพรรณสดใส เปล่งปลั่ง คืนความยืดหยุ่นให้กับผิว สร้างความมีชีวิตชีวาให้กับผิวอย่างเป็นธรรมชาติ


        ดังนั้นน้ำมันดอกอีฟนิ่งพริมโรส จึงมีคุณสมบัติที่ช่วยบำรุงผิวพรรรณ ช่วยแก้ปัญหาของผิว รังแค หรือ ผมร่วง และที่สำคัญสำหรับผู้หญิงทุกคน คือ ช่วยชะลอความเสื่อมของผิว คืนความอ่อนเยาว์ให้กับผู้หญิงทุกวัย


        จากการศึกษาวิจัยทางการแพทย์พบว่าน้ำมันดอกอีฟนิ่งพริมโรส จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ความยืดหยุ่น ความแข็งแรงของผิว ลดความอ่อนล้า หยาบกระด้าง ภายในระยะเวลาเพียง 12 สัปดาห์ หลังจากรับประทานน้ำมันดอกอีฟนิ่งพริมโรส

เคล็ดลับของน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสเพื่อบรรเทาอาการก่อนมีประจำเดือน 


         อาการก่อนมีรอบเดือนมีสาเหตุเกิดจากภาวะไม่สมดุลของสารพลอสตาแกลนดินในร่างกาย ผลที่ตามมา คือ ระดับ PGE1 ลดลง ส่งผลให้ผู้หญิงมีอาการปวดประจำเดือน เจ็บคัดหน้าอก ดังนั้นการได้เพิ่ม GLA ด้วยน้ำมันดอกอีฟนิ่งพริมโรส จะช่วยลดอาการก่อนมีรอบเดือน เช่น ปวดศีรษะ ปวดท้อง เจ็บคัดตึงหน้าอก หงุดหงิด และอาการไม่สบายต่างๆ ได้มากกว่า 60% เมื่อรับประทานต่อเนื่องเป็นประจำ
         

     สำหรับผู้หญิงที่มีอาการเจ็บคัดตึงหน้าอก เนื่องมาจากการมีก้อนเนื้อ และซิสต์ที่เต้านม (Fibrocystic Breasts) จากผลการทดลองทางการแพทย์ของน้ำมันดอกอีฟนิ่งพริมโรส ในหญิงชาวเอเชียจำนวน 66 คน เป็นระยะเวลา 3 -6 เดือน พบว่าในระยะเวลา 3 เดือน อาการเจ็บคัดตึงหน้าอกลดลง และหายไปภายในระยะเวลา 6 เดือน

เคล็ดลับเพื่อบรรเทาอาการของหญิงสูงวัยก่อนหมดรอบเดือน 

         ผู้หญิงทุกคนเมื่อเริ่มสูงวัยขึ้น ปัญหาที่มิอาจเลี่ยงได้คือ ระดับฮอร์โมนเพศหญิง คือ เอสโตรเจน จะค่อยๆ ลดลง ส่งผลให้เข้าสู่ภาวะใกล้หมดประจำเดือน หรือ วัยทอง ซึ่งโดยเฉลี่ยจะอยู่ในช่วงอายุประมาณ 50 ปี ซึ่งอาการเมื่อเริ่มเข้าสู่วัยทอง คือ อาการไม่สบายเนื้อสบายตัว ร้อนวูบวาบ ปวดเมื่อย ผิวหนังแห้งกร้าน หยาบกระด้าง อารมณ์แปรปรวน
         เนื่องจากผู้หญิงเมื่อเข้าสู่วัยที่มากขึ้น ความสามารถของร่างกายในการเปลี่ยนกรดไขมัน LA ให้เป็น GLA และ PGE1 จะลดลง ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดอาการวัยทอง ดังนั้นการรับประทานน้ำมันดอกอีฟนิ่งพริมโรส จะสามารถช่วยบรรเทาอาการ และชะลอการเข้าสู่วัยทองได้

ประโยชน์ของน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส

  1. บรรเทาอาการไขข้ออักเสบ ข้อรูมาตอยด์     อาการของโรคไขข้ออักเสบ ข้อรูมาตอยด์ เกี่ยวข้องกับความผิดปกติของระบบภูมิต้านทาน พบการขาดสารพลอสตาแกลนดิน PGE1 และมีสารพลอสตาแกลนดิน PGE2 มากกว่าปกติ ซึ่งจากข้อมูลทางการแพทย์ได้ระบุถึงประสิทธิภาพของน้ำมันดอกอีฟนิ่งพริมโรส จะช่วยเพิ่มระดับของสาร PGE1 ในร่างกาย จึงช่วยลดอาการปวดตึงของข้อในตอนเช้า อาการบวมของข้อลดลง ซึ่งการรับประทานน้ำมันดอกอีฟนิ่งพริมโรสอย่างต่อเนื่องประมาณ 3-6 เดือน พบว่าสามารถช่วยลดอัตราการใช้ยาต้านการอักเสบชนิดไม่ใช่เสตียรอยด์ (NSAIDS) ได้ประมาณ 30%-70% ช่วยลดผลข้างเคียงต่อกระเพาะอาหารที่เกิดจากยา ทำให้คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยไขข้ออักเสบ ข้อรูมาตอยด์ดีขึ้น
  2. ลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด     การทาน 'น้ำมันดอกอีฟนิ่งพริมโรส' ซึ่งเป็นแหล่งของกรดไขมันไม่อิ่มตัวกลุ่ม Omega-6 คือ LA และ GLA จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจได้เพราะสาร LA และ GLA มีส่วนช่วยลดระดับไขมันโคเลสเตอรอลในระดับเล็กน้อย GLA ของน้ำมันดอกอีฟนิ่งพริมโรส มีส่วนช่วยลดความดันโลหิต สำหรับผู้ที่มีความดันโลหิตสูงไม่มากGLA มีผลช่วยยับยั้งการเกาะตัวของเกล็ดเลือด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด ควรเสริมควบคู่กับน้ำมันปลา (Fish oil) ซึ่งเป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวกลุ่มโอเมก้า-3
  3. โรคผิวหนังอักเสบ (Eczema) และสะเก็ดเงิน (Psoriasis)     'น้ำมันดอกอีฟนิ่งพริมโรส' สามารถช่วยเพิ่มปริมาณสาร GLA สามารถช่วยลดอาการอักเสบ คัน ผื่นแดง สะเก็ด บวมของผิวได้ ซึ่งจากการรวบรวมการวิจัยทางการแพทย์ตั้งแต่ปี 1981-1991 จำนวน 26 การวิจัย จำนวนคนไข้ 1,207 คน พบว่าอาการผิวหนังอักเสบ Atopic Eczema จะดีขึ้นเมื่อทานต่อเนื่องประมาณ 4-8 สัปดาห์ และส่งผลดีต่อผู้ป่วย เพราะสามารถช่วยลดการใช้ยา Steroid อย่างชัดเจน ทำให้ลดโอกาสที่คนไข้จะได้รับผลข้างเคียงจากการใช้ยา Steroid เป็นระยะเวลานานๆ
  4. ลดภาวะแทรกซ้อนในผู้ป่วยเบาหวาน

     เนื่องจากผู้ที่ป่วยเบาหวานมานานมักพบว่าจะขาดสาร GLA ทำให้เกิดอาการชาปลายมือ ปลายเท้า เยื่อหุ้มของเซลล์ประสาทเกิดอาการผิดปกติ ซึ่งการเสริมด้วยน้ำมันดอกอีฟนิ่งพริมโรส พบว่าอาการทางปลายประสาทในผู้ป่วยเบาหวานทุเลาลง แต่ไม่มีผลในการเปลี่ยนแปลงระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วย

หลักเกณฑ์การเลือกใช้น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส

     ควรเป็นน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส (Evening Primrose Oil) จากแหล่งที่มีคุณภาพสูงโดยใช้วิธีการสกัดด้วยความเย็น (Cold Pressed) เนื่องจากสารสำคัญจะไม่ถูกทำลายจากความร้อนในขั้นตอนการสกัด
ควรเลือกน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส (Evening Primrose Oil) ที่มีเปอร์เซ็นต์สาร GLA 10 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งตรงตามที่ใช้ในการวิจัยทางการแพทย์ จึงสามารถมั่นใจในประสิทธิภาพและความปลอดภัย
 

ขนาดการรับประทานที่เหมาะสมของน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส

yes   เพื่อบำรุงผิว เพิ่มความชุ่มชื้นของผิว                         
   รับประทานวันละ 1,000-3,000 (มิลลิกรัม)


yes   เพื่อบรรเทาอาการก่อนมีรอบเดือน                              
   รับประทานวันละ 3,000 (มิลลิกรัม)


yes   เพื่อบรรเทาอาการของผู้หญิงสูงวัยก่อนหมดรอบเดือน        
   รับประทานวันละ 3,000 (มิลลิกรัม)


yes   เพื่อบรรเทาอาการไขข้ออักเสบ ข้อรูมาตอยด์                                 
   รับประทานวันละ 3,000 -6,000 (มิลลิกรัม)


yes   เพื่อบรรเทาอาการปวดคัดตึงหน้าอก                                               
   รับประทานวันละ3,000 (มิลลิกรัม)


yes   เพื่อลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด                               
   รับประทานวันละ 1,000-3,000 (มิลลิกรัม)


yes   เพื่อบรรเทาโรคผิวหนังอักเสบ (Eczema) และ สะเก็ดเงิน (Psoriasis)
   รับประทานวันละ 3,000 -6,000 (มิลลิกรัม)


yes   เพื่อลดภาวะแทรกซ้อนในผู้ป่วยเบาหวาน
   รับประทานวันละ 3,000 (มิลลิกรัม)

BACK